เป็นไกด์ครั้งแรกของชีวิต ณ เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย – มิกค์ คาซาน
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2553 ขณะที่ผมอยู่ที่บ้านเพื่อน เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กของผมก็ดังขึ้น ผมได้หยิบมาดูปรากฎว่าเป็นเบอร์รัสเซีย ผมเลยรีบหยิบโทรศัพท์เครื่องใหญ่แล้วกดเบอร์ดูว่าเป็นรายชื่อคนรู้จักไหม สรุปไม่มี ผมจึงกดรับสาย แต่ว่าคนที่โทรมากลับกลายเป็นคนไทยพูด พูดภาษาไทยออกมา ผมงงมาก เพราะว่าเท่าที่ทราบมาเมืองผมไม่มีคนไทยนอกเหนือจากนี้
แล้วเขาก็แนะนำตัวมาว่า นี้อาจารย์จันทร์ชัย ได้เบอร์ผมมาจากศาสตราจารย์ อเล็กซานเดอร์ มหาวิทยาลัยคาซาน เขาบอกว่ามีคนไทยอยู่เมืองนี้คือผม อาจารย์บอกว่ามาเจอกันหน่อยนะเย็นนี้ ช่วยเป็นไกด์พาไปห้างเมก้าหน่อย(ห้างเมก้า Mega เป็นห้างที่ใหญ่ในระดับหนึ่ง ห้างนี้จะพบได้ตามเมืองใหญ่ เช่น มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รอสตอฟ ฯลฯ) อาจารย์ท่านมากับอาจารย์จากหลายมหาลัยวิทยาลัยมาดูงาน ดูวิธีการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ที่คาซาน ผมก็ตอบว่า ตกลง
หลังจากนั้นได้ไปนัดเจอกันที่โรงแรมที่คณะของอาจารย์ได้พักอยู่ แถวเครมลิน เมืองคาซาน ผมก็เดินเข้าไปในล็อบบี้ โรงแรม ได้ยินคนไทยพูดอังกฤษกับคนรัสเซีย ว่า ไทยแลนด์ ๆ ผมจึงเข้าไปทักว่า คนไทยใช่รึเปล่าครับ เขาก็บอกว่าใช่ครับ แล้วพี่ชื่อไร ผมบอกว่า ไม่ น้อง น้อง เขาบอกว่า ชื่อน้อง ผมบอกว่าไม่ๆ ผมอะเป็นน้อง ต่อมาก็บอกว่า ชื่อมิกค์ แล้วเขาบอกว่า ผมชื่อสิทธิ์ แล้วมิกค์อายุเท่าไร ผมบอกว่า 21 ปี ครับ แล้วสิทธิ์บอกว่า ผมอะเป็นน้อง ผมขึ้นม. 6 เองอายุ 17 ปี โหพี่พี่ ผมก็บอกว่า อ้าว ก็ทราบมาว่าอาจารย์หลายท่านมากันเลยคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้วยพี่ขอโทษที
สักพักพวกอาจารย์ก็ลงมาผมก็ยกมือไหว้สวัสดี ตื่นเต้นมากครับ ครั้งแรกในชีวิตในเมืองคาซานที่ได้เจอคนไทยมากขนาดนี้ รู้สึกดี มีความสุข ที่ได้เจอคนไทย ต่อมาได้พาบรรดาอาจารย์ไปห้างเมก้าดังกล่าว ถึงเมก้าก็เย็นมากแล้ว ไม่รู้ว่าขากลับจะมีรถรึเปล่าผมเริ่มกังวลเล็กน้อย เราได้ไปรับประทานอาหารเย็นที่ ภัตตาคารอาหารอีเกีย อร่อยมากๆ แล้วพาเดินเล่นชมของเล็กน้อย เพราะว่าดึกมากแล้ว จน 21.30 น. ผมบอกว่ารถจะหมดแล้วรีบไปป้ายรถเมล์ด่วนเลยครับ แล้วผมก็บอกว่า ถ้ารถหมดมีสองทางที่จะกลับโรงแรมได้ คือแท็กซี่ไม่ก็เหมารถตู้ แต่ว่าเหมารถตู้ผมเคยแต่ได้ยินพี่ที่เรียนที่เมืองเซนต์ฯบอก (คุณพี่ผิง) ผมเองก็ไม่เคยเหมากลับอะครับ แล้วพวกเราก็เดินออกมาที่ป้ายรถกัน แล้วผมมองไปทางซ้าย มีรถตู้จอดอยู่ คนจะเต็มรถอยู่แล้ว
ผมเลยเดินไปถามว่า ผ่านโรงแรมไหมครับ เขาบอกว่าไม่ผ่าน แต่ว่าแล้วกี่คนละที่จะขึ้น ผมบอกว่า 14 คน หลังจากนั้น คนขับรถตู้ก็ไล่คนรัสเซียในรถตู้ลงหมดเลย แล้วบอกว่าให้พวกเราขึ้นไป แบบว่าเหมาเลยอะครับ ผมรู้สึกผิด ทำให้ คนรัสเซียไม่ได้กลับบ้าน แต่ก็ดีใจที่พาลูกทัวร์กลับมาโรงแรมอย่างปลอดภัย วันรุ่งขึ้นพวกเราไปดูวิธีการเรียนการสอนของมหาลัยวิทยาลัยและโรงเรียนซึ่งอยู่ในเมืองที่ติดกับคาซาน เมืองโยชคาร์ โอลา (Йошкар-Ола) เป็นเมืองที่สวยงามมาก ทั้งเมืองและสาวๆ
พวกเราได้ไปเดินใจกลางเมืองแล้วก็มีคนเดินผ่านแล้วบอกว่า สงสัยมาจากเกาหลีแน่แน่ ผมก็สวนไปทันทีว่า ป่าวครับ มาจากประเทศไทย พวกเขางงไปเลย เพราะว่าคิดว่าเราไม่รู้ภาษารัสเซีย แล้วก็กลับมาถึงโรงแรมอย่างสวัสดิภาพ วันต่อมาไปเที่ยวน้ำตก ทางมหาวิทยาลัยคาซานจัดพิธีปิดให้กับพวกเรา มีการร้องเพลง การแสดงของชนเผ่าตาตาร์ แล้วก็มีกิจกรรม ล่องแก่ง เล่นสกีหิมะ อาหารปิ้ง ย่าง บาร์บีคิว สนุกสนานมากครับ ปิดท้ายด้วย พวกเราคนไทยร้องเพลงลอยกระทง แล้วก็รำวงกันกับคนรัสเซียด้วย ได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปพร้อมกัน
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณคณะอาจารย์ทุกท่านในครั้งนี้ ได้ไปร่วมสนุกกับทุกท่าน และน้องเนียมกับน้องสิทธิ์ ที่คุยเรื่องวัยรุ่นๆกันสนุกมากๆ คิดถึงอาจารย์และน้องๆ ทุกคนเลยนะครับ
09/05/2010
แล้วเขาก็แนะนำตัวมาว่า นี้อาจารย์จันทร์ชัย ได้เบอร์ผมมาจากศาสตราจารย์ อเล็กซานเดอร์ มหาวิทยาลัยคาซาน เขาบอกว่ามีคนไทยอยู่เมืองนี้คือผม อาจารย์บอกว่ามาเจอกันหน่อยนะเย็นนี้ ช่วยเป็นไกด์พาไปห้างเมก้าหน่อย(ห้างเมก้า Mega เป็นห้างที่ใหญ่ในระดับหนึ่ง ห้างนี้จะพบได้ตามเมืองใหญ่ เช่น มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รอสตอฟ ฯลฯ) อาจารย์ท่านมากับอาจารย์จากหลายมหาลัยวิทยาลัยมาดูงาน ดูวิธีการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยและโรงเรียน ที่คาซาน ผมก็ตอบว่า ตกลง
หลังจากนั้นได้ไปนัดเจอกันที่โรงแรมที่คณะของอาจารย์ได้พักอยู่ แถวเครมลิน เมืองคาซาน ผมก็เดินเข้าไปในล็อบบี้ โรงแรม ได้ยินคนไทยพูดอังกฤษกับคนรัสเซีย ว่า ไทยแลนด์ ๆ ผมจึงเข้าไปทักว่า คนไทยใช่รึเปล่าครับ เขาก็บอกว่าใช่ครับ แล้วพี่ชื่อไร ผมบอกว่า ไม่ น้อง น้อง เขาบอกว่า ชื่อน้อง ผมบอกว่าไม่ๆ ผมอะเป็นน้อง ต่อมาก็บอกว่า ชื่อมิกค์ แล้วเขาบอกว่า ผมชื่อสิทธิ์ แล้วมิกค์อายุเท่าไร ผมบอกว่า 21 ปี ครับ แล้วสิทธิ์บอกว่า ผมอะเป็นน้อง ผมขึ้นม. 6 เองอายุ 17 ปี โหพี่พี่ ผมก็บอกว่า อ้าว ก็ทราบมาว่าอาจารย์หลายท่านมากันเลยคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยด้วยพี่ขอโทษที
สักพักพวกอาจารย์ก็ลงมาผมก็ยกมือไหว้สวัสดี ตื่นเต้นมากครับ ครั้งแรกในชีวิตในเมืองคาซานที่ได้เจอคนไทยมากขนาดนี้ รู้สึกดี มีความสุข ที่ได้เจอคนไทย ต่อมาได้พาบรรดาอาจารย์ไปห้างเมก้าดังกล่าว ถึงเมก้าก็เย็นมากแล้ว ไม่รู้ว่าขากลับจะมีรถรึเปล่าผมเริ่มกังวลเล็กน้อย เราได้ไปรับประทานอาหารเย็นที่ ภัตตาคารอาหารอีเกีย อร่อยมากๆ แล้วพาเดินเล่นชมของเล็กน้อย เพราะว่าดึกมากแล้ว จน 21.30 น. ผมบอกว่ารถจะหมดแล้วรีบไปป้ายรถเมล์ด่วนเลยครับ แล้วผมก็บอกว่า ถ้ารถหมดมีสองทางที่จะกลับโรงแรมได้ คือแท็กซี่ไม่ก็เหมารถตู้ แต่ว่าเหมารถตู้ผมเคยแต่ได้ยินพี่ที่เรียนที่เมืองเซนต์ฯบอก (คุณพี่ผิง) ผมเองก็ไม่เคยเหมากลับอะครับ แล้วพวกเราก็เดินออกมาที่ป้ายรถกัน แล้วผมมองไปทางซ้าย มีรถตู้จอดอยู่ คนจะเต็มรถอยู่แล้ว
ผมเลยเดินไปถามว่า ผ่านโรงแรมไหมครับ เขาบอกว่าไม่ผ่าน แต่ว่าแล้วกี่คนละที่จะขึ้น ผมบอกว่า 14 คน หลังจากนั้น คนขับรถตู้ก็ไล่คนรัสเซียในรถตู้ลงหมดเลย แล้วบอกว่าให้พวกเราขึ้นไป แบบว่าเหมาเลยอะครับ ผมรู้สึกผิด ทำให้ คนรัสเซียไม่ได้กลับบ้าน แต่ก็ดีใจที่พาลูกทัวร์กลับมาโรงแรมอย่างปลอดภัย วันรุ่งขึ้นพวกเราไปดูวิธีการเรียนการสอนของมหาลัยวิทยาลัยและโรงเรียนซึ่งอยู่ในเมืองที่ติดกับคาซาน เมืองโยชคาร์ โอลา (Йошкар-Ола) เป็นเมืองที่สวยงามมาก ทั้งเมืองและสาวๆ
source:Google Map
พวกเราได้ไปเดินใจกลางเมืองแล้วก็มีคนเดินผ่านแล้วบอกว่า สงสัยมาจากเกาหลีแน่แน่ ผมก็สวนไปทันทีว่า ป่าวครับ มาจากประเทศไทย พวกเขางงไปเลย เพราะว่าคิดว่าเราไม่รู้ภาษารัสเซีย แล้วก็กลับมาถึงโรงแรมอย่างสวัสดิภาพ วันต่อมาไปเที่ยวน้ำตก ทางมหาวิทยาลัยคาซานจัดพิธีปิดให้กับพวกเรา มีการร้องเพลง การแสดงของชนเผ่าตาตาร์ แล้วก็มีกิจกรรม ล่องแก่ง เล่นสกีหิมะ อาหารปิ้ง ย่าง บาร์บีคิว สนุกสนานมากครับ ปิดท้ายด้วย พวกเราคนไทยร้องเพลงลอยกระทง แล้วก็รำวงกันกับคนรัสเซียด้วย ได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปพร้อมกัน
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณคณะอาจารย์ทุกท่านในครั้งนี้ ได้ไปร่วมสนุกกับทุกท่าน และน้องเนียมกับน้องสิทธิ์ ที่คุยเรื่องวัยรุ่นๆกันสนุกมากๆ คิดถึงอาจารย์และน้องๆ ทุกคนเลยนะครับ
09/05/2010
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น