ท่านทูตของฉัน – ดร.วีณารัตน์ มอสโก
ท่านทูตของฉันมีชื่อว่า ฯ พณ ฯ เอกอัครราชทูต ดุสิต จันตะเสน ปัจจุประจำการอยู่ที่ประเทศคูเวต ก่อนหน้านี้ท่านเคยดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำสถานทูตไทยในกรุงมอสโก เมื่อตอนที่ฉันมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ฉันเป็นเด็กก้นครัวที่บ้านของท่าน คอยช่วยพี่อุไรที่เป็นแม่บ้านเป็นลูกมือทำอาหารเวลามีงานเลี้ยงต่าง ๆ
ท่านไม่เคยขอให้ฉันไปช่วยแต่ฉันเต็มใจไปเองเพราะฉันไม่มีเพื่อน นักเรียนไทยที่มีอยู่ในตอนนั้นดูจะสะใจเวลามีคนที่ชีวิตตกต่ำกว่าเขา และหาเรื่องมาอวดมั่งอวดมีกับฉันตามโอกาส ไปช่วยพี่อุไรทำอาหารก็ได้พูดภาษาไทยกับเขาบ้างจากที่ปกติพูดแต่ภาษารัสเซีย อีกทั้งยังมีข้าวกินเพราะท่านไม่เคยหวงข้าวฉันเลย
ท่านทูตของฉันทราบดีว่าฉันอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ และไม่มีหนทางกลับเมืองไทยเพราะบ้านแตกสาแหรกขาด จะหันไปทางไหนก็ไม่มีใครเอา สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนั้นคือ อดทน
ท่านทูตของฉันไม่มีกฎเกณฑ์ในการให้ความเมตตา ท่านทราบดีว่าฉันไม่ใช่ลูกหลานคนใหญ่คนโตและเป็นคนที่ไม่น่าจะเอื้อประโยชน์ ใด ๆ แก่ท่านได้เลยในอนาคต และไม่ใช่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับความกรุณาจากท่าน นักเรียนไทยทั้งในมอสโกและเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์กในสมัยนั้นก็ด้วยเช่นกัน
ท่านเป็นคนแรกที่ให้งานฉันทำ และถึงมันจะเป็นแค่งานล้างจานในครัวที่ทำเนียบทูตกับแม่บ้านชาวรัสเซียหลัง จากงานเลี้ยงในคืนหนึ่ง แต่มันก็เป็นรายได้ก้อนแรกในมอสโก แม้ว่ามันจะดูกระจอกในสายตานักเรียนไทยอื่น ๆ ก็ตาม
ฉันไม่เคยอายที่เคยเป็นเด็กก้นครัวที่บ้านท่านและรอที่จะไปพบท่านและภรรยา พร้อมกับความสำเร็จในวันหนึ่ง หากที่ประเทศไทยจะมีครูสอนภาษารัสเซียที่มีคุณภาพอีกคน ก็ขอให้โลกได้รับรู้ว่า ท่านทูตดุสิตได้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างบุคลากรคนนี้โดยการให้ข้าวกินและ ให้โอกาสต่าง ๆ มากมาย
ท่านทูตของฉันได้ย้ายไปจากมอสโกเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีสักวันที่ฉันจะลืมว่าที่ฉันมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะท่านคอยช่วย เหลือ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะมีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณของท่าน……….
รู้แต่ว่า………พี่น้องชาวไทยในประเทศคูเวตช่างโชคดีเหลือเกินที่มีท่านคอยดูแล
26 มี.ค. 2550
26/03/2007
source:pixabay
ท่านไม่เคยขอให้ฉันไปช่วยแต่ฉันเต็มใจไปเองเพราะฉันไม่มีเพื่อน นักเรียนไทยที่มีอยู่ในตอนนั้นดูจะสะใจเวลามีคนที่ชีวิตตกต่ำกว่าเขา และหาเรื่องมาอวดมั่งอวดมีกับฉันตามโอกาส ไปช่วยพี่อุไรทำอาหารก็ได้พูดภาษาไทยกับเขาบ้างจากที่ปกติพูดแต่ภาษารัสเซีย อีกทั้งยังมีข้าวกินเพราะท่านไม่เคยหวงข้าวฉันเลย
ท่านทูตของฉันทราบดีว่าฉันอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ และไม่มีหนทางกลับเมืองไทยเพราะบ้านแตกสาแหรกขาด จะหันไปทางไหนก็ไม่มีใครเอา สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ในตอนนั้นคือ อดทน
ท่านทูตของฉันไม่มีกฎเกณฑ์ในการให้ความเมตตา ท่านทราบดีว่าฉันไม่ใช่ลูกหลานคนใหญ่คนโตและเป็นคนที่ไม่น่าจะเอื้อประโยชน์ ใด ๆ แก่ท่านได้เลยในอนาคต และไม่ใช่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับความกรุณาจากท่าน นักเรียนไทยทั้งในมอสโกและเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์กในสมัยนั้นก็ด้วยเช่นกัน
ท่านเป็นคนแรกที่ให้งานฉันทำ และถึงมันจะเป็นแค่งานล้างจานในครัวที่ทำเนียบทูตกับแม่บ้านชาวรัสเซียหลัง จากงานเลี้ยงในคืนหนึ่ง แต่มันก็เป็นรายได้ก้อนแรกในมอสโก แม้ว่ามันจะดูกระจอกในสายตานักเรียนไทยอื่น ๆ ก็ตาม
ฉันไม่เคยอายที่เคยเป็นเด็กก้นครัวที่บ้านท่านและรอที่จะไปพบท่านและภรรยา พร้อมกับความสำเร็จในวันหนึ่ง หากที่ประเทศไทยจะมีครูสอนภาษารัสเซียที่มีคุณภาพอีกคน ก็ขอให้โลกได้รับรู้ว่า ท่านทูตดุสิตได้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างบุคลากรคนนี้โดยการให้ข้าวกินและ ให้โอกาสต่าง ๆ มากมาย
ท่านทูตของฉันได้ย้ายไปจากมอสโกเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ไม่มีสักวันที่ฉันจะลืมว่าที่ฉันมาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะท่านคอยช่วย เหลือ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตัวเองจะมีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณของท่าน……….
รู้แต่ว่า………พี่น้องชาวไทยในประเทศคูเวตช่างโชคดีเหลือเกินที่มีท่านคอยดูแล
26 มี.ค. 2550
26/03/2007
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น